top of page

คึกฤทธิ์ในทัศนะของนายประจวบ ทองอุไร

ท่านทำงานด้านหนังสือพิมพมาตลอด เคยต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ใช้หนังสือพิมพ์เขียนบทความ บทกลอน โดยเฉพาะเมื่อปี 2500 ที่มีการเลือกตั้ง ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนั้นมีการวิพากษ์วิจารณ์กันมากว่า เป็นการเลือกตั้งครั้งสกปรกที่สุดเป็นประวัติการณ์ ท่านได้เขียนบทความโจมตีรัฐบาลชุดนั้นอย่างรุนแรง จนกระทั่งต้องถูกฟ้องร้องดำเนินคดี เป็นจำเลยต้องข้อหา กบฏต่อราชอาณาจักร ท่านต่อสู้อย่างไม่เกรงกลัวคุกตะราง อย่างไรก็ตาม ต่อมาเกิดเหตุการณ์รัฐประหาร คดีของท่านมีอันต้องล้มล้างกันไป เพราะตอนนั้นมีคนเข้ามาล้มล้างรัฐบาลชุดนี้พอดี

ตอนนั้นท่านก็พยายามต่อสู้ เพื่อเสรีภาพ และความเป็นประชาธิปไตย มีคนว่าท่านไม่เอาจริง ซึ่งจริงๆ แล้ว ท่านไม่กลัวอะไรยอมติดคุกติดตาราง ยอมถูกฟ้อง แต่ต่อมาอายุท่านมากขึ้น และท่านเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมืองก็ห่างสยามรัฐไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรก็ยังให้การสนับสนุนหนังสือพิมพ์อยู่ ท่านไม่เคยเข้ามาสั่งการ สั่งให้เขียนว่าใคร ทำอย่างไรก็ให้ทำอย่างนั้น ไม่เคยเข้ามาแทรกแซงหรือก้าวก่ายใดๆ

ผมอยู่กับท่านมานาน ขอยืนยันว่า ท่านไม่เคยเข้ามาสั่งผมให้เขียนว่าใคร ท่านปล่อยให้พวกเราทำงานอย่างอิสระ ถือว่าพวกเราตัดสินใจเองได้

สาเหตุที่ท่านต้องการเข้ามาเป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์สยามรัฐคนที่ 3 นั้น ก็เพราะในช่วยนั้นมีการรัฐประหาร บ้านเมืองตกอยู่ในขั้นวิกฤติ ท่านก็บอกว่า ท่านขอเป็นบก.เอง ถ้าเกิดอะไรพลาดพลั้งขึ้นมา มีการติดคุกติดตารางลูกเมียพวกคุณจะได้ไม่ลำบาก ท่านจึงเข้ามาเป็นบก.เอง จนกระทั่งถึงปี 2504 จากนั้นก็โยนมาให้ผมเป็นต่อ ท่านบอกว่าเหนื่อยแล้ว

หลังจากนั้นจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เชิญท่านเข้าไปดำรงตำแหน่งต่างๆ แต่ท่านยังเขียนหนังสือลงสยามรัฐรายวัน จนกระทั่งท่านเป็นนายกรัฐมนตรี ก็หยุดเขียนไประยะหนึ่งต่อมาในปี 2519 ท่านสอบตกที่เขตดุสิต กลับมาเขียนหนังสือ โดยใช้หัวคอลัมน์ว่า “ข้าวนอกนา” ซึ่งท่านคิดว่าไม่ได้เป็นส.ส. จึงเปรียบเทียบตัวเองว่าเป็นข้าวนอกนา แต่ระยะหลังก็เปลี่ยนมาเป็นซอยสวนพลู เป็นคอลัมน์ที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักกันอย่างมากมาย ท่านเขียนหนังสือแสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมา ไม่กลัวอิทธิพลใดๆ เพราะคนอย่างท่านใครๆ ก็กลัว

ส่วนการรวมตัวของบรรดาอดีตบรรณาธิการสยามรัฐ เพื่อจัดทำอนุสรณ์ถึงท่านอาจารย์หม่อมนั้น เวลานี้ พวกเรายังไม่ได้พบกันเลย คงต้องปรึกษากันก่อน อย่างไรก็ตาม ท่านมีมูลนิธิอยู่แล้วแต่ระยะหลังมูลนิธิท่านเงียบๆไป ไม่รู้ดำเนินการไปถึงไหน มูลนิธินี้อาจารย์หม่อม ตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือศิลปินที่มีความเดือดร้อนตกทุกข์ได้ยาก แต่ถ้าบก.สยามรัฐจะรวมตัวกันทำอนุสรณ์ถึงท่านก็ต้องมาพูดคุยกันใหม่

และครั้งล่าสุดที่ผมเจอกับอาจารย์ ท่านก็แกล้งกระเซ้าว่า “คุณต้องเขียนประวัติของผมดีดีน่ะเพราะคุณเป็นนักเขียนใหญ่”

นายประจวบ ทองอุไร อดีตบรรณาธิการหนังสือสยามรัฐรายวันคนที่ 4

#สอสารมวลชน #คกฤทธ #ทองอไร #ประจวบ #คกฤทธในสายตาผอน

ข่าวสารล่าสุด
คลังข้อมูล
ค้นหาด้วยคำ
ยังไม่มีแท็ก
bottom of page